กล่องกระดาษแข็งพรีเมี่ยม กับ โครงสร้างกล่องที่แข็งแรง

ขั้นตอนการผลิตกล่องจั่วปัง
กล่องจั่วปัง
ขั้นตอนการผลิตกล่องกระดาษแข็ง

กล่องจั่วปัง บ้านเรารู้จักคำนี้ที่เข้าใจได้ตรงกันเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของมัน กระนั้นก็ตาม ยังคงมีคนจำนวนมากอาจไม่รู้จักด้วยซ้ำว่า มันเป็นกล่องอะไรกัน อันที่จริง คำเรียกที่เป็นสากล หรือถูกต้องกว่า คือ กล่องกระดาษแข็ง ภาษาอังกฤษใช้คำว่า “ Set-up Box หรือ Rigid Box ลักษณะทางกายภาพแล้ว ดูภายนอกมีความหนากว่ากล่องกระดาษแบบพับได้ประมาณ 3-4 เท่า หากท่านสนใจที่เรียนรู้เพิ่มเติมว่า เปรียบเทียบอย่างไร ลองอ่านเรื่อง ความแตกต่างระหว่างกล่องพับได้กับกล่องกระดาษแข็ง ที่นี่ครับ

บางท่านอาจสนใจเพิ่มเติมว่า แล้วผิวที่เห็นและที่เราต้องการจะพิมพ์หล่ะ ทำอย่างไร ขอเรียนอย่างนี้ครับ ผิวภายนอกที่เราเคยเห็นเป็นสีสรร หรือลวดลายบนกระดาษนั้น เกิดจากวัสดุผิวต่างหากอีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งอาจใช้กระดาษพิมพ์ด้วยระบบออฟเซ็ต หรืออื่นใดที่รองรับการพิมพ์ภาพลงได้ ตลอดจนการแปรรูปอื่นๆ เช่น การเคลือบ การพิมพ์ทองเค การพิมพ์ปั้มนูน ปั้มจม หรือการพิมพ์ ยู.วี. เฉพาะจุด เป็นต้น

หากเป็นลวดลายกระดาษอัดลาย หรือวัสดุเลียนแบบ วัสดุสังเคราะห์ที่สามารถดัดแปลงมาใช้เป็นใบผิว เพื่อห่อหุ้มแกนกระดาษแข็ง ที่ขึ้นรูปเป็นกล่อง กล่องกระดาษแข็ง จึงไม่ค่อยเห็นการพิมพ์โดยตรง ลงบนตัวพื้นผิวของกระดาษแข็ง หรือกระดาษจั่วปัง (Greyboard) ดังสาเหตุที่ผมอธิบายข้างต้น ดังนั้น จึงขออธิบายเชิงกายภาพ ส่วนสีสรรภายนอกของกล่องกระดาษแข็ง เป็นเกร็ดความรู้เล็กน้อยอย่างนี้ครับ

• อุปสรรค ปัญหาที่เกิด

กล่องจั่วปัง หรือกล่องกระดาษแข็ง มีมาช้านานแล้ว แต่สมัยก่อนยังไม่มีเครื่องจักรในการห่อหุ้มผิวนอก การผลิตจึงเป็นการห่อหุ้มด้วยการประกอบมือเป็นหลัก ซึ่งมักมีปัญหาหลักๆ อยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อมีการผลิตจำนวนมาก ต้องใข้ระยะเวลายาวนาน ต้องใช้ทักษะงานฝีมือที่มีความละเอียดอ่อน และความชำนาญของผู้ผลิต และแรงงานจำนวนมาก

ซึ่งแน่นอนว่า การทำงานด้วยแรงงานฝีมือย่อมมีความไม่สม่ำเสมอและความประณีตในการทำงานลดลง และมีข้อบกพร่องมากมาย เช่น การเกิดรอยย่น รอยยับ รอยเป็นฟองอากาศ เกิดเป็นรอยคลื่นไม่เรียบ หรือเป็นตะปุ่มตะปํ่า เหล่านี้เป็นต้น ผลสืบเนื่องตามมาจากการทำงานระยะยาว เกิดความเบื่อหน่าย เหนื่อยล้า ความใส่ใจละเอียดอาจถูกละเลยได้

เมื่อถึงขั้นตอนตรวจสอบคุณภาพ งานกล่องที่ถูกผลิตและมีตำหนิ จะถูกคัดออก กลายเป็นความสูญเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายดำเนินการ ไหนจะต้องทำเพิ่มเพื่อทดแทน นั่นก็ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น หากเล็ดลอดการตรวจสอบจากโรงงานผู้ผลิต เมื่อส่งมอบงานไปถึงลูกค้าและหากเกิดการสุ่มตรวจสอบพบข้อตำหนิหรือไม่ผ่านคุณสมบัติในการรับของ ก็อาจถูกตีของคืน ปฏิเสธการรับของอีก นี่ก็เสียหายอีก

• การแก้ไขที่บริษัทของเราได้กระทำและผ่านพ้นมา

บริษัทฯ ของผู้เขียนได้ผ่านยุคสมัยดังกล่าวมาแล้ว ต่อมา จึงมีการนำผลิตเครื่องจักรเฉพาะทางเข้าช่วยทำงาน ช่วยให้ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ได้รับการแก้ไขและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ปัจจุบันเราผลิตกล่องกระดาษแข็ง ด้วยเครื่องจักรเกือบทั้งระบบแล้ว และคาดว่าจะเป็นระบบอัตโนมัติสมบูรณ์ในอีกไม่ช้า เพื่อยกระดับการผลิตให้มีความเป็นสากล ได้มาตรฐานยิ่งขึ้น รองรับคำสั่งการผลิตในปริมาณมาก ร่นเวลาการส่งมอบกล่องที่ผลิตเสร็จได้เร็วขึ้น ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างทันท่วงที ปัจจุบันกล่องโทรศัพท์ไอโฟน หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพสูงที่เราพบเห็นกัน หลายๆ แบรนด์จะใส่สินค้าของตน ในบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษแข็งกันแล้ว ซึ่งสะท้อนความเป็นสินค้าระดับไฮเอนด์ และมีคุณภาพสูง นอกจากนี้ในหมวดขนมหวาน เช่น ช๊อคโกแลตที่มีตราสินค้าชื่อดังหลายแห่ง ก็ใช้บรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษเหล่านี้เป็นสื่อในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้วยเช่นกัน

We learn from our own experiences from manual assembly to machine production which gives better accuracy to the output. Whether consistency the smoothness of the cover wrapping, resulting in significant reduction losses, and able to produce quality boxes approved.

Nowadays, we use machines to produce rigid boxes throughout the system. Therefore allowing us to support mass production, can be delivered quickly. This type of box is likely to be more popular in the future certainly.

tag : #greyboard, #Greyboard, #Grey Board, #rigidbox, #Rigidbox, #RigidBox, #Casebox, #casebox, #SetupBox, #Set-upBox, #setupbox, #setup box, #กล่องจั่วปัง, #กล่องกระดาษแข็ง, #กระดาษแข็งสีเทา, # กระดาษจั่วปัง, #กระดาษเกรย์บอร์ด, #กล่องจั่วปังหุ้มด้วยกระดาษอัดลาย, #กล่องจั่วปังหุ้มด้วยกระดาษเคลือบผิวอย่างดี, #กล่องกระดาษแข็งหุ้มด้วยกระดาษอัดลาย, #กล่องกระดาษแข็งหุ้มด้วยกระดาษเคลือบอย่างดี, #ผลิตกล่องจั่วปัง, #ผลิตกล่องจั่วปังที่ไหนดี, #ผลิตกล่องกระดาษแข็งที่ไหนดี, #ผลิตกล่องกระดาษแข็ง, #รับผลิตกล่องจั่วปัง, #รับผลิตกล่องกระดาษแข็ง, #รับผลิตขาตั้งปฏิทินตั้งโต๊ะ, #ขาตั้งปฏิทินตั้งโต๊ะ, #ปกแฟ้มติดสันเหล็ก, #งานหุ้มปกแข็งจั่วปัง,

โรงงานผลิตกล่องกระดาษจั่วปังระดับมืออาชีพ มั่นใจได้ในคุณภาพการผลิต ราคา และไม่ต้องรอนานในการสั่งผลิต สามารถติดต่อเองโดยตรง ไม่ต้องผ่านคนกลาง สอบถามได้ที่ Line Business : @rigidboxmaker และ/หรือ @rigidbox โทรโดยตรงที่คุณอนันต์ 0816128662 คุณจิตรา โทร. 0869734123

กระดาษจั่วปัง คืออะไร

type of greyboard

กระดาษจั่วปังคือ กระดาษที่ถูกใช้งานพิมพ์ เขียนและผ่านใช้งานมาแล้ว เมื่อถูกทิ้งเป็นเศษกระดาษจากแหล่งต่างๆ ถูกรวบรวมและนำมาใช้เป็นวัตถุดิบของโรงงานผลิตกระดาษจั่วปังนำมาแปรรูป พื่อนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง เรียกกระบวนการนี้ว่า “ การรีไซเคิล (Recycle) “ การนำกระดาษที่ผ่านการใช้งานนี้มาปรับแต่งด้วยการแช่น้ำ บด ปั่นแหลก ให้เป็นอณูชิ้นเล็กที่สุด เพื่อกำจัดพื้นผิวภายนอก เช่น เคมี หมึก น้ำยาต่างๆ แล้วกรองออก เหลือเอาเพียงเยื่อกระดาษ ที่ผ่านการแช่น้ำจนยุ่ยแล้วนำเอาเยื่อเหล่านี้มาปรับใส่สารเติมแต่งบางอย่างเพื่อให้มีความคงตัวเพิ่มและแข็งตัวได้ นำมาผลิตเป็นกระดาษเพื่อการใช้ซ้ำอีกครั้ง มักจะเห็นเป็นแผ่นกระดาษแข็งๆ สีเทาๆ นั่นแหละครับ กระดาษแบบนี้ฝรั่งก็รู้จักและผลิตได้เช่นกัน ดังนั้น เขาก็เรียกกระดาษตามรูปพรรณที่เขาเห็นว่า “GREY BOARD” เกรย์ (Grey) แปลว่า “สีเทา” บอร์ด (Board) แปลตรงตัวว่า “แผ่นแข็งๆ” ก็สามารถแทนลักษณะนามว่า กระดาษแข็งสีเทา นั่นเอง อีกนัยหนึ่ง กระดาษจั่วปัง (纸板) เป็นคำจากภาษาจีน จั้ว (纸) แปลว่า “กระดาษ” ปัง (板) แปลว่า “แข็ง” รวมคำกันเป็นคำว่า “กระดาษแข็ง” สมัยก่อนในเมืองจีน โรงงานผลิตสินค้าเครื่องสำอางค์จะนำเอากระดาษแข็งชนิดนี้มาดัดแปลงทำเป็นกล่อง สำหรับใส่แป้งขาว (สมัยนี้ก็เทียบได้กับแป้งพลับ ที่คุณผู้หญิงใช้กันอยู่) สำหรับทาหน้าของผู้หญิง ไม่รู้จะมีคนรุ่นนี้จะทันเห็นของแบบนี้บ้างไม๊นะครับ เลยเป็นที่มาของคำว่า “จั่วปัง” ในภาษาจีน นานวันผ่านไป เมืองไทยก็มีการนำเอากระดาษแข็งแบบนี้มาทำเป็นกล่อง แต่ยังไม่มีคำเรียกเฉพาะ ก็เลยเรียกทับศัพท์ไปว่า เป็นกล่องจั่วปัง จึงกลายเป็นสรรพนามสำหรับกล่องชนิดนี้ไปแล้ว ซึ่งเรียกขานปุ๊บ คนก็จะเข้าใจกันปั๊บ

กระดาษจั่วปังคือ

กระดาษที่จะใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตกล่องกระดาษแข็ง หรือที่มาของคำว่า กล่องจั่วปัง ในภาษาการค้าเรียกกันทั่วไปเป็นหมายเลข เช่น กระดาษแข็งเบอร์ 8, เบอร์ 10, เบอร์ 12, เบอร์ 16, เบอร์ 20, เบอร์ 24, เบอร์ 32, เบอร์ 38, เบอร์ 42 การเรียกขานเช่นนี้อาจเป็นที่คุ้นเคยรู้จักกันในหมู่ร้านค้ากระดาษ แต่ควรรู้ถึงลักษณะนามที่แท้จริงและถูกต้องกว่า คือ การเรียกขานตามน้ำหนัก ซึ่งจะเป็นข้อมูลเปรียบเทียบดังต่อไปนี้

  • N0.8   หนา 0.670 mm. หนัก 420g/แผ่น
  • N0.10 หนา 0.816 mm. หนัก 510g/แผ่น
  • N0.12 หนา 1.03 mm. หนัก 640g/แผ่น
  • N0.16 หนา 1.31 mm. หนัก 820g/แผ่น
  • N0.20 หนา 1.60 mm. หนัก 1000g/แผ่น
  • N0.24 หนา 2.06 mm. หนัก 1290g/แผ่น
  • N0.28 หนา 2.40 mm. หนัก 1500g/แผ่น
  • N0.32 หนา 2.67 mm. หนัก 1670g/แผ่น
  • N0.38 หนา 2.91 mm. หนัก 1820g/แผ่น
  • N0.42 หนา 3.37 mm. หนัก 2110g/แผ่น

ความสัมพันธ์ระหว่างความหนาของกระดาษจั่วปัง กับน้ำหนักของแผ่นกระดาษ

ด้วยข้อมูลที่แอดมินค้นหามาโพสให้อ่าน คุณๆ คงอยากรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างไร ผู้ผลิตในทวีปยุโรป และอเมริกาจะใช้หน่วยมิลลิกรัม ซึ่งเป็นมาตราน้ำหนักเป็นตัวกำหนดขนาดความหนาของกระดาษจั่วปัง แล้วเรียกตามน้ำหนักนั้นๆเช่น กระดาษจั่วปังเบอร์ 28 ว่า เกรย์บอร์ด Greyboard (หรือชิปบอร์ด Chipboard) 1500g. แต่ในฟากฝั่งผู้ผลิตในประเทศจีนจะใช้หน่วยความหนาของกระดาษเป็นตัวเรียก เช่น กระดาษเกรย์บอร์ด 2.40 ม.ม. ซึ่งโดยมากผู้ผลิตจีนมักจะเข้าใจกันทั่วไปเลยว่า คือ น้ำหนัก 1500g. หรือบางครั้งพวกเขาจะเรียกทั้งความหนาและน้ำหนักไปในคราวเดียวกัน ซึ่งผู้ผลิตเหล่านี้เข้าใจถึงโครงสร้างหรือน้ำหนักกระดาษจั่วปังเหล่านี้อย่างดี ถึงแม้จำไม่ได้ เพียงเขาเคาะเครื่องคิดเลขเดี๋ยวเดียวก็บอกออกมาได้แล้ว ซึ่งแอดมินเคยได้รบการแนะนำจากเพื่อนที่เป็นเจ้าหน้าที่ด้านการตลาดของผู้ผลิตกระดาษจั่วปังในจีนว่า ใช้สูตรในการคำนวณความหนา สัมพันธ์กับน้ำหนักของกระดาษจั่วปัง ดังนี้:

ความหนา (หน่วยเป็น มิลลิเมตร : mm. (ม.ม.)) = น้ำหนัก (หน่วยเป็น กรัมต่อตารางเมตร (gsm.) x 1.55 / 1000
ตัวอย่างเช่น : กระดาษที่มีน้ำหนัก 1290 gsm. | ความหนาจะที่ได้คือ
1290 x 1.55 / 1000 = 1.995 mm. หรือ 2 mm. นั้นเอง

ขนาดการบรรจุ มักจะเรียกขานกันเป็นก้อน หรือบางครั้งก็เรียกเป็นรีม แต่ในหนึ่งก้อนหนึ่งรีมนั้น จำนวนแผ่นจะไม่เท่ากัน การจัดบรรจุนี้ โรงงานผู้ผลิตจะกำหนดขนาดบรรจุเป็นน้ำหนักต่อกิโลกรัม โดยให้แต่ละก้อนมีน้ำหนักประมาณ 45 กิโลกรัม จากที่เคยสำรวจข้อมูลไว้ พบว่า:

  • N0.8   หนา 0.67 mm. มีจำนวนก้อนละประมาณ 105-110 แผ่น
  • N0.10 หนา 0.816 mm. มีจำนวนก้อนละประมาณ 90-95 แผ่น
  • N0.12 หนา 1.03 mm. มีจำนวนก้อนละประมาณ 70-79 แผ่น
  • N0.16 หนา 1.31 mm. มีจำนวนก้อนละประมาณ 55-60แผ่น
  • N0.20 หนา 1.60 mm. มีจำนวนก้อนละประมาณ 45-48แผ่น
  • N0.24 หนา 2.06 mm. มีจำนวนก้อนละประมาณ 35-38แผ่น
  • N0.28 หนา 2.40 mm. มีจำนวนก้อนละประมาณ 30-33แผ่น
  • N0.32 หนา 2.67 mm. มีจำนวนก้อนละประมาณ 27-30แผ่น
  • N0.38 หนา 3.10 mm. (แกรมนี้มักจะเป็นของนำเข้าจากต่างประเทศ หรืออาจต้องปะกบขึ้นตามคำสั่งผลิตพิเศษ ซึ่งมักมีข้อกำหนดการสั่งขั้นต่ำในการผลิตด้วย ซึ่งการปะกบอาจต้องใช้กระดาษความหนาต่างชนิดมาทากาวปะกับติดกัน เช่น ในความหนา 3.10 mm. นี้ แอดมินเคยทำด้วยการใช้ No.16 มาปะกบกับ No.20 เพื่อให้ได้ความหนา 3.0 mm. ฯลฯ)
  • N0.42 หนา 3.40 mm. แกรมนี้มักจะเป็นของนำเข้าจากต่างประเทศ หรืออาจต้องปะกบขึ้นตามคำสั่งผลิตพิเศษ ซึ่งมักมีข้อกำหนดการสั่งขั้นต่ำในการผลิตด้วย ในบ้านเราพบเห็นไม่บ่อยนัก กรรมวิธีขึ้นอยู่กับเทคนิคของผู้ผลิตแปรรูปแต่ละราย)

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการนำกระดาษจั่วปัง ไปประยุกต์ใช้ในงานแบบอื่นๆ อีกเช่น
ใช้เป็นแกนเพื่อยึดเกาะ การใช้กระดาษจั่วปังเป็นแกนเพื่อปะกบสิ่งพิมพ์ หรือกระดาษปิดผิวเพื่อเสริมให้เป็นป้ายแข็งแรงในการแสดงผลหรือเป็นงานที่พับเป็นท่อน เช่นปกแข็งที่ใช้ร่วมกับกล่องจั่วปังทำเป็นกล่องแม่เหล็ก หรือขาตั้งปฏิทินตั้งโต๊ะก็จัดเป็นงานในประเภทนี้
ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเป็นกล่อง ซึ่งเป็นหนึ่งในงานหลักที่จะกระดาษจั่วปังเป็นแกนภายใน หุ้มด้วยผิวที่เป็นกระดาษแฟนซีสวยงาม หรือกระดาษพิมพ์ผิวสี ตกแต่งเพื่อความสวยงามและมาห่อหุ้มผิวภายนอกอีกที
ใช้ในการทำต้นแบบ ด้วยคุณสมบัติความแข็งแกร่ง จึงถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการทำต้นแบบ เช่น ทำโมเดลต่างๆ ซึ่งสามารถตัดด้วยมีดที่แหลมคม เป็นชิ้นส่วนประกอบได้ง่ายดาย

คุณสมบัติเพิ่มเติม :

ความชื้นสัมพัทธ์มีผลต่อความแกร่งของกระดาษจั่วปัง (กระดาษแข็ง)
ตามที่พวกเราได้อ่านบทความจากข้างบนจะทำให้ทราบว่า การผลิตต้องผ่านกระบวนผลิตด้วยนํ้า (ปริมาณมหาศาล) เพื่อนำเอาเยื่อที่ผ่านการปรุงแต่งมาโรยลงบนสายพานตะแกรง มีการกำหนดความหนาของชั้นที่ต้องการผลิตว่าเท่าไร และอบแห้งจนเป็นกระดาษแผ่นแข็งที่เราเห็นกัน ด้านความหนาแอดมินจะได้พูดในหัวข้อต่อไปเรื่อง ความหนาของกระดาษจั่วปัง กลับมาเรื่องความชื้นสัมพัทธ์ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับความแกร่ง หรือความแข็ง กล่าวคือ หากมีปริมาณความชื้นในกระดาษมาก จะทำให้กระดาษมีความอ่อนตัว ในทางตรงข้าม หากมีปริมาณความชื้นในกระดาษน้อย จะผลให้กระดาษมีความแกร่งหรือความแข็งดีกว่า ดังนั้น กระดาษเมื่อถูกผลิตเสร็จเป็นสินค้าแล้ว การเก็บรักษาจึงมีความสำคัญเช่นกัน

สรุป ที่กล่าวมาข้างต้นนี้เป็นลักษณะภายนอกที่มองเห็นได้ของกระดาษจั่วปัง หรือ Greyboard ซึ่งผมจะค่อยๆ เล่าและนำไปสู่เรื่องราวของกล่องกระดาษแข็งในโพสต่อๆ ไปครับ

กระดาษจั่วปังคือ
กระดาษจั่วปังคือ


tags: #greyboard, #Greyboard, #Grey Board, #rigidbox, #Rigidbox, #RigidBox, #Casebox, #casebox, #SetupBox, #Set-upBox, #setupbox, #setup box, #กล่องจั่วปัง, #กล่องกระดาษแข็ง, #กระดาษแข็งสีเทา, # กระดาษจั่วปัง, #กระดาษเกรย์บอร์ด, #กล่องจั่วปังหุ้มด้วยกระดาษอัดลาย, #กล่องจั่วปังหุ้มด้วยกระดาษเคลือบผิวอย่างดี, #กล่องกระดาษแข็งหุ้มด้วยกระดาษอัดลาย, #กล่องกระดาษแข็งหุ้มด้วยกระดาษเคลือบอย่างดี, #ผลิตกล่องจั่วปัง, #ผลิตกล่องจั่วปังที่ไหนดี, #ผลิตกล่องกระดาษแข็งที่ไหนดี, #ผลิตกล่องกระดาษแข็ง, #รับผลิตกล่องจั่วปัง, #รับผลิตกล่องกระดาษแข็ง, #รับผลิตขาตั้งปฏิทินตั้งโต๊ะ, #ขาตั้งปฏิทินตั้งโต๊ะ, #ปกแฟ้มติดสันเหล็ก, #งานหุ้มปกแข็งจั่วปัง,